30 วัน 30 ทีม : หรือ ลาเมโล บอล ดีไม่พอที่จะเป็นมือหนึ่งของ ชาร์ลอตต์ ฮอร์เน็ตส์?
เมื่อเราพูดถึง ชาร์ลอตต์ ฮอร์เน็ตส์ ผู้เล่นคนแรกที่ขึ้นมาในหัวเลยก็คือ ลาเมโล บอล ชายผู้ที่ทำให้เด็กรุ่นใหม่จำว่า “เมโล” คือเจ้าตัวแทนที่จะเป็น คาร์เมโล แอนโทนี ตำนานของลีก NBA
ตลอดสามปีที่ผ่านมา บอล สามารถติดทีม All-Star ไปได้หนึ่งครั้งเมื่อฤดูกาล 2021-22 เขาคือความหวังของฮอร์เน็ตส์ ที่เติบโตมาควบคู่กับ แอนโทนี เอ็ดเวิร์ดส์ ของทิมเบอร์วูล์ฟส์ แต่ทว่าตอนนี้ บอล กลับเริ่มตามหลังอย่างเห็นได้ชัดทั้งที่ในตอนแรกเจ้าตัวชนะ เอ็ดเวิร์ดส์ ได้ในการแข่งขันรุกกี้ยอดเยี่ยมด้วยซ้ำไป
หากเขาอยากกลับไปสู่จุดเดิมที่ถูกพูดถึงอีกครั้ง นี่คือปีที่เขาต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเขาดีพอจะเป็นมือหนึ่งของทีมและยกระดับประสิทธิภาพตัวเองให้ได้มากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาเขาโดนหลายคนแซงหน้าไปเรียบร้อยแล้ว
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
หรือ ลาเมโล บอล ดีไม่พอที่จะเป็นมือหนึ่งของ ชาร์ลอตต์ ฮอร์เน็ตส์?
ศักยภาพของ ลาเมโล คือของจริง แต่ประสิทธิภาพคือตัวตัดสินว่าเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน ซึ่งในตอนนี้เขายังไม่มีสิ่งนั้นอยู่กับตัว
ประสิทธิภาพการทำแต้มของ ลาเมโล บอล
ตั้งแต่เข้ามาใน NBA ลาเมโลไม่เคยมีฟิลด์โกลเกิน 43.6 เปอร์เซนต์เลย ความน่าสนใจมากกว่านั้นคือยิ่งเจ้าตัวมีโอกาสยิงมากเท่าไหร่ เปอร์เซนต์การยิงก็ยิ่งตกลงไปเท่านั้น จากการยิง 13.2 ครั้ง และทำฟิลด์โกลได้ 43.6 เปอร์เซนต์ ในปีแรก ปีต่อมา บอล ก็ได้รับความไว้วางใจมากขึ้นกดฟิลด์โกลไป 16.7 ครั้งต่อเกมแต่ฟิลด์โกลก็ลดลงมาอีกเหลือเพียง 42.9 เปอร์เซนต์
ตัดภาพมาที่ปีล่าสุด เจ้าตัวมีฟิลด์โกลทะยานไปถึง 20.0 ครั้งต่อเกม และก็เหมือนเดิมที่ประสิทธิภาพของเขาต่ำลง โดยคราวนี้เหลือเพียง 41.1 เปอร์เซนต์ และบอกได้เลยว่าการที่คนหนึ่งได้ยิงถึง 20 ครั้งแต่มีเปอร์เซนต์ฟิลด์โกลเท่านี้ มันไม่เป็นผลดีกับทีมแน่นอน
มาถึงตรงนี้ หลายคนยังสามารถโต้แย้งได้ว่าตัวเขานั้นมีการยิงสามคะแนนที่ดีขึ้นเรื่อยๆด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้น จากปีแรกมีการยิง 5.1 ครั้งต่อเกม (35.2 เปอรเซนต์) เป็น 7.5 ครั้งต่อเกม (38.9 เปอร์เซนต์) และจบด้วยการยิงถึง 10.6 ครั้ง (37.6 เปอร์เซนต์) ในฤดูกาล 2022-23 ซึ่งนี่ถือว่าดีเหนือกว่ามาตรฐานอย่างชัดเจน…แต่ทว่า
เมื่อเราไปดูค่า True Shooting Percentage (เปอร์เซ็นต์ที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพการทำแต้ม โดยนับจากสองแต้ม, สามแต้ม และ ลูกโทษ) แล้วนั้น ลาเมโล บอล ไม่เคยทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของลีกเลย โดยปีล่าสุดเขามีค่า TS% อยู่ที่ 54.1 เปอร์เซนต์ ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยถึง 4 เปอร์เซนต์ เราจึงสามารถสรุปได้อย่างดีว่าการทำแต้มของเขาไม่ดีเลยตลอดสามปีที่ผ่านมา
ปัญหาหลักก็คือทั้งๆที่เขามีความสูงถึง 6 ฟุต 7 นิ้ว แต่การทำแต้มในพื้นที่สองคะแนนโดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ห่วงมันน่าผิดหวังเอามากๆ จากสถิติของ NBA นับแค่ผู้เล่นที่มีการไดรฟ์ (ข้าม) มากกว่า 13 ครั้งต่อเกม ผู้เล่นที่มีเปอร์เซนต์ของฟิลด์โกลน้อยที่สุดก็คือ ลาเมโล บอล ที่ 40 เปอร์เซนต์เท่านั้น
มากไปกว่านั้น เปอร์เซนต์การจบสกอร์ในระยะโฟลทเตอร์ฤดูกาลล่าสุดของเขามีเพียงแค่ 31.6 เปอร์เซนต์เท่านั้น ส่วนปีก่อนหน้านั้นก็ทำได้เพียง 40 เปอร์เซนต์ จากจำนวนการยิงที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ใต้แป้นมากๆจากทั้งสองฤดูกาล สถิติเหล่านี้จึงสามารถบอกได้ว่า พื้นที่ตรงนี้คือปัญหาที่ต้องได้รับการพัฒนาแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ที่ต้องหยิบยกเรื่องการทำแต้มขึ้นมาพูดเป็นหลักก็เพราะ บอล เป็นผู้นำเรื่องการยิงฟิลด์โกลของทีมมาแล้วสองปีติด ส่วนปีแรกนั้นเขาเป็นอันดับสามรองจาก กอร์ดอน เฮย์เวิร์ด และ เทอร์รี โรเซียร์ การฝากฝังให้ผู้เล่นคนหนึ่งที่ประสิทธิภาพไม่ดีเป็นคนจบสกอร์บ่อยๆนั้น ก็เหมือนเป็นการทำร้ายทีมทางอ้อมก็ว่าได้
แม้ว่าส่วนหนึ่งจะเป็นเพราะทีม ฮอร์เน็ตส์ เองที่ไม่มีทีมที่ดีพอเพื่อช่วยการทำแต้มของบอล แต่เราคงต้องยอมรับกันว่าตัวเขาเองก็มีปัญหาไม่ใช่น้อยเหมือนกัน
ข้อดี-ช้อเสียของ ลาเมโล บอล นอกจากการทำแต้ม
นอกเหนือจากการทำแต้ม วิถีการเป็นเพลย์เมคเกอร์ของเขายังถือว่าทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการเล่นพิคแอนด์โรลและการเล่นเกมจ่ายในเกมสวนกลับ ด้วยการมีแอสซิสต์ถึง 8.4 ครั้งต่อเกม ซึ่งเรื่องนี้มีโอกาสที่จะพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อได้ผู้เล่นอย่าง ไมล์ส บริดเจส กลับมา พร้อมกับได้ มาร์ค วิลเลียมส์ เซ็นเตอร์อายุน้อยที่พัฒนาขึ้น และ แบรนดอน มิลเลอร์ ดราฟต์อันดับ 2 ปีล่าสุดเข้ามาเสริมทัพ
อีกจุดหนึ่งที่น่าผิดหวังก็คือเกมรับที่ไม่ดีเอาซะเลย ไม่ว่าจะเป็นทั้งเกมรับวงในหรือวงนอก ทั้งๆที่เขาสามารถใช้ส่วนสูงของตัวเองเป็นประโยชน์ได้มากกว่านี้ หากเขามุ่งมั่นเสริมร่างกายให้แข็งขึ้นและเน้นเกมรับมากกว่านี้ เจ้าตัวก็มีสิทธิจะเป็นผู้เล่นสองทางชั้นดีได้ แต่ทว่าในตอนนี้ยังไม่เห็นแววเลย
ด้วยวัย 22 ปีที่แม้จะดูน้อยแต่นี่กำลังจะเป็นปีที่ 4 แล้วของบอล ส่วนผลงานอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันก็กลับยังไม่ถูกแสดงออกมาให้เห็นเท่าไหร่ ภายในปีสองปีนี้คงเป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นดีว่าเจ้าตัวดีพอที่จะเป็น “มือหนึ่ง” ของทีมจริงๆหรือไม่ หรือสุดท้ายเขาเป็นได้แค่ผู้เล่นมือสองที่ต้องรอมือหนึ่งอีกคนเข้ามาร่วมทัพกันแน่
บทความที่เกี่ยวข้อง: 30 วัน 30 ทีม : ฮูสตัน ร็อคเก็ตส์ กับเส้นทางการพัฒนาเกมรับเพื่อเพลย์อิน
บทความที่เกี่ยวข้อง: 30 วัน 30 ทีม : ซาคราเมนโต้ คิงส์ กับเกมรับที่ต้องพัฒนาถ้าคิดเป็นแชมป์ NBA
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand
