วิเคราะห์บอล !! พรีเมียร์ลีก สเปอร์ส พบ ลิเวอร์พูล 30 ก.ย.66 : PPTVHD36
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2023-2024 เกมบิ๊กแมตช์ นัดที่ 7 สเปอร์ส พบ ลิเวอร์พูล
ปรีวิว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 7
วันเสาร์ที่ 30 กันยายน 2566
ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ พบ ลิเวอร์พูล
สนาม: ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เวลา : 23.30 น.
ผู้ตัดสิน : ไซม่อน ฮูเปอร์ ผู้ตัดสิน VAR : ดาร์เรน อิงแลนด์
ผลงานการพบกันในฤดูกาลที่ผ่านมา
30 เม.ย.2566 ลิเวอร์พูล 4-3 ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (พรีเมียร์ลีก)
6 ก.พ.2565 ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 1-2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
ลิเวอร์พูล แบ่งขายหุ้นบางส่วนใช้หนี้สโมสร จากช่วงโควิดระบาด
สื่อสเปน เผย เรอัล มาดริด สนคว้าตัว ซน ฮึง-มิน จากสเปอร์ส
เช็กโปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดที่ 7 แมนยู ลิเวอร์พูล เตะวันไหน
ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
24 ก.ย.2566 เสมอ อาร์เซน่อล 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
16 ก.ย.2566 ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
2 ก.ย.2566 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 5-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
29 ส.ค.2566 เสมอ ฟูแล่ม 1-1 (เยือน,แพ้จุดโทษ) คาราบาว คัพ
26 ส.ค.2566 ชนะ บอร์นมัธ 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
สภาพทีมท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
อังเก้ ปอสเตโคกลู นายใหญ่ชาวออสซี่ พาทีมลงเตะ 6 นัด มี 14 แต้ม อยู่อันดับ 4 ของตารางคะแนน โดยจะไม่มี เบรนแนน จอห์นสัน ที่เจ็บจากเกมนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ ที่บุกไปเสมอ อาร์เซน่อล 2-2 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่สามารถกลับมาได้ในเกมนี้ คาดว่าจะเป็น เมเนอร์ โซโลมอน หรือ ริชาร์ลิซอน ที่ลงแทนในจุดนี้ ขณะที่ เจมส์ แมดดิสัน ที่เดี้ยงจากเกมเดียวกันรอลุ้นผลสแกนที่เข่าแต่ท้ายที่สุดพร้อมลงสนาม ส่วนแข้งที่เจ็บก่อนหน้านี้ อิวาน เปริซิช (เข่า), จิโอวานี่ โล เซลโซ่ ( ต้น ขา), อัลฟี่ ไวท์แมน (ข้อเท้า), โรดริโก้ เบนทานคูร์ (เข่า) ส่วน ไบรยาน คีล และ ไรอัน เซสเซยง หายเจ็บกลับมาซ้อมได้แล้วแต่ยังไม่สมบูรร์
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปอร์ส (4-2-3-1) : กูเยลโม่ วิคาริโอ – เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิกกี้ ฟาน เดอ เฟน, เดสตินี่ อูโดกี – ป๊าป ซาร์, อีฟส์ บิสซูม่า – เดยัน คูลูเซฟสกี้, เจมส์ แมดดิสัน, เมเนอร์ โซโลมอน – ซน ฮึง-มิน
ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
27 ก.ย.2566 ชนะ เลสเตอร์ 3-1 (เหย้า) คาราบาว คัพ
24 ก.ย.2566 ชนะ เวสต์แฮม 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
21 ก.ย.2566 ชนะ ลาสค์ ลินซ์ 3-1 (เยือน) ยูโรป้า ลีก
16 ก.ย.2566 ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
3 ก.ย.2566 ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
สภาพทีมลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ บอสใหญ่ ลิเวอร์พูล ชนะ ด้วยสกอร์ 3-1 มาแล้ว 4 นัดติดต่อกัน โดยแข่งไป 6 นัดมี 16 แต้ม อยู่อันดับ 2 เกมนี้จะกลับมาใช้ผู้เล่นตัวหลัก หลังจากที่โรเตชั่นพักไว้ในเกมลีกคัพ รอบ 3 ที่ชนะ เลสเตอร์ อลีสซง เบ็คเกอร์ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, โดมินิค โซโบซไล, โจเอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ พร้อมกลับมาสตาร์ตทั้งหมด ส่วน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หายเจ็บแล้วต้องดูว่าจะฟิตแย่งตำแหน่งกลับมาจาก โจ โกเมซ ได้หรือไม่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า เป็นเพียงรายเดียวที่ยังอยู่ระหว่างเรียกความฟิตจากอาการบาดเจ็บ
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ -โจ โกเมซ, โจเอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – โดมินิค โซโบซไล, อเล็ก แม็ค อัลลิสเตอร์ , เคอร์ติส โจนส์ – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ
ความน่าจะเป็นของเกม
ทั้งสองทีมอยู่ในช่วงผลงานที่ดี โดยเฉพาะสเปอร์ส ที่ได้ อังเก้ ปอสเตโคกลู เข้ามาคุมถือว่าพลิกโฉมทีมได้อย่างผิดหูผิดตา ออกสตาร์ตยอดเยี่ยมไร้พ่าย เกมนี้มาเจอ ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มร้อนแรง เกมรุกยิงเป็นกอบเป็นกำ ถือว่าไม่ใช่งานง่ายแน่ เกมนี้ตลอด 90 นาทีน่าจะสูสีกันอย่างสูสีออกได้ทั้ง 3 หน้า แต่หากเลือกผู้ชนะ น่าจะเป็นเจ้าถิ่น สเปอร์ส ที่ได้ทั้งเสียงเชียร์ และความสดที่ได้พัก จะเข้าป้ายคว้าชัยไปแบบหืดจับ
สกอร์ที่คาด
สเปอร์ส ชนะ 2-1
เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม
-พบกันในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 62 นัด สเปอร์ส ชนะ 14 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 31 นัดเสมอกัน 17 นัด
-สเปอร์ส ชนะเพียงเกมเดียวจาก 21 เกมพรีเมียร์ลีกพบกับลิเวอร์พูล (เสมอ 6 แพ้ 14) โดยชัยชนะนัดเดียวคือตุลาคม ปี 2017 ที่เวมบลีย์ ชนะไป 4-1
– สเปอร์ส ไม่ชนะ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก 11 เกมติด (เสมอ 3, แพ้ 8) โดยฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล ชนะทั้งไป-กลับ
-สเปอร์ส คว้าชัยชนะ 8 จาก 11 เกมในบ้านเกมลีก ซึ่งในจำนวนนี้เป็นชัยชนะสองนัดแรกภายใต้การคุมทีมของ อังเก้ ปอสเตโคกลู
– มีแค่ เชลซี ที่ยิงประตู สเปอร์ส ได้มากกว่า ลิเวอร์พูล (เชลซี 110 ประตู, ลิเวอร์พูล 109 ประตู)
-ลิเวอร์พูลไม่แพ้เกมลีกเลยตั้งแต่เดือนเมษายน และไม่แพ้ใครมา 8 นัดนอกบ้าน ค่าเฉลี่ย 2.6 ประตูต่อเกมในเกมเยือน
– เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาคุมลิเวอร์พูลนัดแรก เมื่อ ตุลาคมปี 2015 เป็นการเจอกับ สเปอร์ส ซึ่งเสมอกัน 0-0
-โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ทำได้ (6 ประตู) หรือแอสซิสต์ (9 แอสซิสต์) ในแต่ละเกมจาก 12 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก รวมถึงเกมลีกของลิเวอร์พูลทั้ง 6 เกมในฤดูกาลนี้ (3 ประตู 4 แอสซิสต์)
– ประตูเฉลี่ยในเกมพรีเมียร์ลีกของคู่นี้คือ 2.94 ประตูต่อเกม