สื่อซาอุฯ เผยยูฟ่า เล็งดึง”อัล นาสเซอร์”เตะแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นหน้า : PPTVHD36
สื่อซาอุดีอาระเบีย อ้าง ยูฟ่า กำลังพิจารณาดึง อัล นาสเซอร์ ของ คริสเตียโน โรนัลโด้ เข้าร่วมแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า
รายงานจาก Sportbible ระบุว่า สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า กำลังพิจารณาเชิญ อัล นาสเซอร์ ทีมดังจากซาอุดีโปรลีก นำโดย คริสเตียโน โรนัลโด้ สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส เข้าร่วมทำการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า ตามรายงานจากซาอุดีอาระเบีย ที่อ้างถึงประเด็นนี้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โรนัลโด้ ยิงประตูที่ 13 ของเขาในซาอุดิโปรลีก ฤดูกาลนี้ ขณะที่ อัล นาสเซอร์ เอาชน ะอัล วาห์ดา 3-1 เก็บแต้มขยับเข้าใกล้ อัล ฮิลาล จ่าฝูง เหลืองเพียง 4 คะแนน จาก 13 นัด
ส.บอลซาอุฯ เจรจายูฟ่า ขอทีมในลีก ร่วมเล่น UCL
ปธ. ยูฟ่า ยืนยัน ลีกซาอุฯ ลงเล่น “แชมเปี้ยนส์ ลีก” ไม่ได้
แม้ว่าเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัย จะฟอร์มร้อนแรงกับต้นสังกัด แต่ผลงานกลับห่างไกลจากสายตาจากกองเชียร์ชาวยุโรปจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ตามที่นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบีย AlHarbi44 ระบุบน X หรือทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการ ระบุ ยูฟ่า กำลังพิจารณาเชิญ อัล นาสเซอร์ เข้าร่วมการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2024-2025
ตามรายงานเหตุผลคือ อัล นาสเซอร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามสโมสรที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก และมี ความนิยมอย่างมากในหมู่แฟนบอลชาวยุโรป
แข้งวัย 38 ปี ซึ่งเป็นนักเตะคนแรกที่คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก 5 สมัย ยังลงสนามในการแข่งขันมากกว่าและยิงประตูได้มากกว่า ผู้เล่นคนอื่นๆ ในทัวร์นาเมนท์ ที่ 140 ประตู
นั่นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ เมื่อพูดถึงสถิติของโรนัลโด้ในการแข่งขันชั้นนำของยุโรป สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส เป็นผู้ทำประตูสูงสุดในแชมเปี้ยนส์ลีกถึง 7 ครั้ง และยังทำประตูได้ 67 ประตูในรอบน็อคเอาท์ของทัวร์นาเมนท์ ทำประตูรอบชิงชนะเลิศ 3 นัด และเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ทำประตูเกมแชมเปี้ยนส์ลีก 11 เกมติดต่อกัน
สำหรับแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มจะถูกยกเลิก แทนที่ด้วยรูปแบบใหม่ซึ่งจะรวม 36 สโมสรและเปลี่ยนจาก 125 เกมเป็น 189 เกม เรียกว่า ‘สวิสโมเดล’ และเห็นทุกสโมสรวางอยู่บนตารางเดียวกัน โดยแต่ละกลุ่มเล่น 8 นัด ซึ่งต่างจากรูปแบบเดิมคือ 8 กลุ่มๆ ละ 4 นัด
ส่วนการเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย 8 อันดับแรกจะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์โดยอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 9-24 จะเข้าสู่การแข่งขันรอบเพลย์ออฟแบบ 2 นัด เพื่อนำเอาอีก 8 ทีมที่เหลือผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนผู้แพ้ตกรอบ ทีมที่จบอันดับที่ 24-36 จะไม่ได้หล่นไปเล่นในศึกยูโรป้า ลีก ขณะที่ รอบ รอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ จะยังคงรูปแบบเดิม
