เก็บตกหลังเกม ยูฟ่า ยูโรปาลีก หงส์แดง โดนนำก่อนยิงแซง 3 เม็ดรวด

ลิเวอร์พูล ชอบให้กระตุ้น

เหมือนจะเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วสำหรับ หงส์แดง ฤดูกาลนี้ที่ชอบปล่อยให้คู่แข่งออกนำไปก่อนซึ่งหากรวมเกมนี้ก็เป็นนัดที่ 4 แล้ว ซึ่งยังดีที่พวกเขาสามารถกลับมาได้ทั้งหมดราวกับว่าถ้าไม่โดนกระตุ้นก็จะเล่นไม่ออก มองในแง่ดีมันก็คือการที่ทีมจะได้ฝึกแก้เกมในสถานการณ์ต่าง ๆ แต่หากมองในแง่ร้ายคือหากโดนนำแล้วแก้ไม่ได้นั่นหมายถึงความพ่ายแพ้เท่านั้นเอง

กลาง ลิเวอร์พูล ทำเกมไม่ได้

เกมนี้โดยเฉพาะในช่วงครึ่งเวลาแรก ลิเวอร์พูล แม้จะครองบอลได้มากกว่า แต่รูปเกมพวกเขาแทบไม่ได้เหนือกว่าเลย โดยเฉพาะเกมแดนกลางที่วันนี้มีทั้ง สเตฟาน ไบจ์เซติช วาตารุ เอ็นโดะ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ รวมถึง ไรอัน กราเวนเบิร์ช แต่กลับไม่สามารถสร้างความได้เปรียบในแดนกลางมากนัก ซึ่งก็ต้องให้ คล็อปป์ จัดการปรับระบบพร้อมแก้เกมในช่วงพักครึ่งเกมถึงดูดีขึ้นมาตามลำดับในที่สุด

สุดท้ายต้องถึงมือแข้งตัวหลัก

แน่นอนตามคาดกันก่อนเกมว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ จะทำการโรเทชั่นนักเตะและพักตัวหลักหลายคนไว้บนม้านั่ง ซึ่งก็อย่างที่กล่าวไปว่ารูปเกมในช่วง 45 นาทีแรกไม่ได้ดูเหนือกว่าเลยทั้งแดนกลางและแดนหน้าที่สร้างโอกาสสวย ๆ ได้น้อยมาก แถมยังมาเจอลูกสูตรของเจ้าถิ่นชิงออกนำไปก่อนอีกต่างหาก ซึ่งสุดท้าย คล็อปป์ เองก็ต้องแก้เกมปล่อยตัวหลักทั้งหลายลงสนามทั้ง โซบอสซไล แมค อัลลิสเตอร์ โจ โกเมซ รวมถึง โม ซาลาห์ ที่หลังจากลงมาพร้อมกันเกมก็ง่ายขึ้นทันที หลาย ๆ อย่างไหลลื่นเข้าทางไปหมด นี่จึงพิสูจน์ชัดเจนว่าตัวสำรองของ หงส์แดง ดูจะยังแทนที่ตัวหลักไม่ได้ดีเท่าที่ควร ณ เวลานี้

กราเวนเบิร์ช ฟอร์มดีแต่โชคร้าย

เกมนี้แฟน ๆ หงส์แดง ได้เห็น ไรอัน กราเวนเบิร์ช กองกลางคนใหม่ลงเล่นแบบเต็ม ๆ เสียที ซึ่งผลงานก็พูดได้ว่าไม่เลวเลยกับตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ที่วันนี้ดูจะโดดเด่นที่สุดในแผงกลางกลาง ซึ่งเจ้าตัวเป็นมิดฟิลด์สไตล์เทคนิคสูงไปกับบอลดีมีความคล่องตัว ซึ่งเกมนี้ก็ฉายแววพร้อมทำ 1 แอสซิสต์ แต่.. สุดท้ายดูเหมือนจะโชคร้ายทั้งที่ควรจะได้ลงสนามต่อเนื่องเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายในแดนกลางแต่กลับมาบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป คงต้องมาลุ้นกันว่าสุดท้ายเจ้าตัวจะต้องพักนานแค่ไหน เพราะเห็นผลงานแบบนี้แล้วอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะได้เห็น 3 ประสานแดนกลาง แมค อัลลิสเตอร์ โซบอสซไล กราเวนเบิร์ช ลงทำเกมพร้อมกันคงจะสนุกน่าดู