ตอกย้ำให้เห็นว่า ลิเวอร์พูล เปลี่ยนไปจริงๆ
นับตั้งแต่ทดลองระบบใหม่ตั้งแต่ช่วงท้ายฤดูกาลก่อน มาถึงตอนนี้พวกเขาไม่แพ้ใครในลีกติดต่อกันเป็นเกมที่ 17
แล้วมันค่อย ๆ อยู่ตัวขึ้นเรื่อย ๆ
ความอดทนในการเล่น คือปัจจัยสำคัญนำไปสู่การได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไม่ได้เพรสซิ่งหนักหน่วงก็จริง แต่ เดวิด มอยส์ วางหมากมาตั้งรับลึกจน ลิเวอร์พูล พบเจอความยากลำบากในการเข้าทำ
มันคือโจทย์ที่ ลิเวอร์พูล มักเจอเป็นประจำ
แต่มาตอนนี้ เราเห็นกันแล้วว่า ลิเวอร์พูล ค่อย ๆ แกะไปเรื่อย ๆ ใช้ความอดทน อาศัยความใจเย็น ไม่ตะบี้ตะบันบุกเข้าใส่
เมื่อไปต่อไม่ได้ ก็กลับมาเซตแดนหลัง ให้เกมค่อยเป็นค่อยไปจนสุดท้ายก็ทลายกำแพง “เดอะ แฮมเมอร์ส” ดังลูกที่ ดาร์วิน นูนเญซ ยิงตามน้ำจากลูกหยอดของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
ความยืดหยุ่น เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ ลิเวอร์พูล 2.0 มีเพิ่มเติมขึ้นมา
ความต่างของ 2.0 กับ 1.0 คือ เวอร์ชั่นนี้ ลิเวอร์พูล ไม่จำเป็นต้องสนใจระบบที่ตายตัว
1.0 ยึดติดกับ 4-3-3 มากเกินไป จนกลายเป็นอาวุธที่กลับมาทิ่มแทงตัวเองในกรณีที่หลับหูหลับตาเล่นงานคู่แข่ง
ส่วน 2.0 นั้น 3-2-2-3 ก็ได้ หรือจะ 4-2-3-1 ก็ดี
ลิเวอร์พูล หมุนปรับตามสถานการณ์ของเกม ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องทำให้คู่แข่งเล่นตามเกมที่พวกเขาเป็นคนกำหนด
หาก ลิเวอร์พูล เวอร์ชั่นนี้เปลี่ยนเวอร์ชั่น
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็กลายเป็นอีกเวอร์ชั่นเช่นกัน
เขาแปรสภาพจากเพชฌฆาตที่หมายจะล่าสกอร์
แต่ตอนนี้ ซาลาห์ ยกระดับการเล่นด้วยการเป็นเพลย์เมคเกอร์ มีลูกจ่ายเหนือชั้น มีลูกแทงทะลุช่อง แถมสภาพร่างกายยังเล่นเต็ม 90 นาทีไม่มีหมด
ความสำคัญของกองหน้าตัวเป้าที่เอื้อต่อการเล่น ลิเวอร์พูล 2.0 คือการมี ดาร์วิน นูนเญซ ค่อยขยับเคลื่อนที่บนไลน์แดนบน
แม้ได้จับบอลเล่นตลอด 80 นาทีแค่ 33 ครั้งขนาด อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังมีตัวเลขที่มากกว่า
แต่ทุกการเคลื่อนที่ ทุกการเคลื่อนไหวของเขา สร้างประโยชน์ต่อเกมรุก ลิเวอร์พูล มากมาย
โอกาสยิง 3 ครั้ง เข้ากรอบ 2 เป็น 1 ประตู
และอารมณ์ปลดปล่อยที่พังสกอร์ได้หลังจากพลาดโอกาสทองเหลือเชื่อ…
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ คือจุดเริ่มต้นของการได้ประตูขึ้นนำ 2-1
เขาบรรจงหยอดไปยังพื้นที่ว่างในกรอบเขตโทษ แล้วเป็นหัวหอกอุรุกวัย สอดเข้ามายิงตวัดย้อนทาง อัลฟงส์ อเรโอล่า นายด่าน เวสต์แฮม
“มันเป็นแอสซิสต์แรกของผมกับสโมสร และมันวิเศษมากขึ้นเพราะมันเป็นประตูของ ดาร์วิน” แม็ค อัลลิสเตอร์ กล่าว
“ผมมีความสุขมาก แต่แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือผลลัพธ์”
“มันเป็นเกมที่ยากมาก เรารู้จักพวกเขา เรารู้ว่าพวกเขาจะเล่นยังไง รู้ว่าพวกเขาจะพยายามทำอะไร ซึ่งเล่นเกมรับเป็นหลักโดยพยายามหาทางโต้กลับ”
“เราเตรียมตัวมาดีสำหรับเกมนี้ และขอบคุณพระเจ้าที่เราชนะ”
“เรากำลังทำงานหนัก และทุกคนเห็นได้ว่าเราพัฒนาไปมากนับตั้งแต่เริ่มซีซั่น เราจะทำงานกันต่อไป”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการชนะเกม และเราทำได้สำเร็จ”
.
.
.
การมีตัวเลือกให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้หยิบจับ เป็นเรื่องที่เราไม่ค่อยได้เห็นในยุคก่อน
ออปชั่นแดนหน้า ไม่ว่าจะจิ้มใครก็สามารถทำให้ทีมได้ประโยชน์
ในตอนที่ โคดี้ กัคโป ยังไม่ได้อยู่ฟอร์มที่ดี
ขณะที่ ดีโอโก้ โชต้า ยังคงตามหาความคงเส้นคงวา
ลิเวอร์พูล ก็ยังมี หลุยส์ ดิอาซ-ดาร์วิน-ซาลาห์ ที่เป็นทางเลือกให้ใช้สอย
แผงแดนกลาง แน่นอนว่า หากไม่มีเรื่องปัญหาบาดเจ็บอะไรเล่นงาน ทั้ง แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โดมินิค โซโบซไล คือคนที่จับจองพื้นที่
สำหรับ เคอร์ติส โจนส์ เขาทำหน้าที่ในบทบาทตามที่ได้รับไม่ขาดตกบกพร่อง
อัตราการทำงานของ โจนส์ ไม่ได้เป็นรองใครเลย เขาสร้างความคุกคามกับการเล่นเกมรุกได้ เช่นเดียวกับเกมรับที่มีความขยัน
พื้นที่ว่างตรงกลางมีหลายคนให้เบียดแย่งชิง
ไรอัน กราเฟนแบร์ก กับ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ นั่งรอโอกาส ส่วน วาตารุ เอ็นโด คงต้องอดทนรอไปอีกสักระยะ
และอีกหนึ่งคนที่น่าสนใจคือ สเตฟาน บายเซติช กับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่สุดท้ายแล้วสองแข้งสแปนิช จะได้ลงตรงไหน
โจ โกเมซ รับบทบาทแบ็กขวาอีกครั้ง และทำได้ดีไม่ใช่แค่การดวลสถานการณ์หนึ่งต่อหนึ่ง
แต่ยังมีลูกจ่ายขึ้นไปยังแดนหน้า เชื่อมต่อการเล่นกับ ซาลาห์ หรือแม้แต่กล้าเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ด้วยพลังและเทคนิค
บทบาทของ โกเมซ ดูไม่หวือหวา แต่มันเรียบง่ายจนทำให้ทีมมีความสมดุล
ด่านทดสอบบนเวที พรีเมียร์ลีก ต่อไปคือการเจอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่กรุงลอนดอน
“คลับไก่” ยุค อังเก้ ปอสเตโคกลู เป็นหนึ่งในสี่ทีมที่ยังไม่ปราชัยต่อใครในซีซั่นนี้
มันไม่ใช่งานง่ายของ ลิเวอร์พูล แล้วก็ไม่ใช่งานง่ายของ สเปอร
HOSSALONSO