8 กองหน้า 278 ล้านปอนด์… เชลซี ได้ ‘อะไร’ มาเป็นตัวจบสกอร์

0


ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ตัวเก่าย้ายออกยี่สิบสามสิบคน ตัวใหม่ถูกเติมเต็มเข้ามาอีกนับสิบ สิ่งที่ตามมาย่อมคือ “ความคาดหวัง” ว่า เชลซี 2023/24 จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น

เพียงแต่ ณ ตอนนี้ที่ พรีเมียร์ลีก ผ่านไปแล้ว 6 นัด ทีมตราสิงห์ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ยังมึนๆ เมาๆ อยู่ที่อันดับ 14 ด้วยผลงานชนะเกมเดียวถ้วน และยิงได้แค่ 5 ลูก เท่าทีมบ๊วย เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พอดี

ชัดเจนว่าปัญหาหลายๆ อย่างยังคงอยู่ และจุดสำคัญอย่างเกมรุก โดยเฉพาะตัวจบสกอร์ ก็ยังเป็นปัญหาใหญ่มาก ทั้งที่พวกเขาทุ่มทุนเสริมกองหน้าไปแล้วกว่า 278 ล้านปอนด์ แต่สิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมา ก็คือ…

ที่จริงในช่วงพีคๆ นี่คือตัวริมเส้นที่ดีที่สุดของอังกฤษ และพาตัวเองขึ้นไปแตะ “ระดับโลก” อย่างไม่เคอะเขิน เคยติดอันดับ 12 บัลลง ดอร์ 2019 มาแล้ว จากผลงานช่วงที่ร่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

2018/19 สเตอร์ลิ่ง กดไป 25 ประตู เป็นรองดาวซัลโวของ แมนฯ ซิตี้ รองจากแค่ เซร์คิโอ อเกวโร่ และ 2019/20 ก็ยิ่งร้อนแรง กระหน่ำ 31 ประตู เป็นดาวซัลโวทัพเรือแบบไร้คู่แข่ง

เมื่อรวมสถิติการเล่นให้ แมนฯ ซิตี้ ตลอด 7 ปี จะพบตัวเลขน่าสะพรึงว่าอดีตเด็กปั้น ลิเวอร์พูล (ซึ่งดึงมาจาก ควีนส์พาร์ค อีกต่อ) สังหารตาข่ายไปถึง 131 ประตู เรียกว่ายิงเฉลี่ยปีละเกือบ 20 ลูกทีเดียว

อย่างไรก็ตาม สเตอร์ลิ่ง ในเครื่องแบบ เชลซี เป็นคนละคนกับ สเตอร์ลิ่ง ตอนอยู่ แมนฯ ซิตี้ อย่างสิ้นเชิง

หนึ่งคือการต้องเปลี่ยนตำแหน่งการยืน รับระบบใหม่ที่หลายกุนซือของ เชลซี ทั้งซีซั่นที่แล้วและซีซั่นนี้ นำมาใช้

สองคือระบบที่ไม่ค่อยเวิร์คเหล่านั้น ทำให้โอกาสจบสกอร์ของ สเตอร์ลิ่ง ลดระดับลงไป ไม่ใช่เดี๋ยวได้ยิงๆ เหมือนตอนอยู่ ซิตี้

สามคือ ในวัย 28 ก็ดูเหมือนว่า “ความเฉียบคม” จะกลายเป็นปัญหาไปเสียแล้ว

และสี่คือ เมื่อทุกอย่างไม่คลิก จำนวนสกอร์มีเพียงหยิบมือ (ปีก่อน 9 ปีนี้ 2) ก็ส่งผลถึง “ความมั่นใจ” ที่สั่นคลอน ไม่มีการยิงแบบชัวร์ๆ บอลสุดท้ายจากเท้าถึงตาข่ายแน่นอน อีกแล้ว

ที่จริงในตลอดทุกเกมของซีซั่นใหม่นี้ สเตอร์ลิ่ง สามารถเล่นงานเกมรับคู่แข่งได้ค่อนข้างดี วูบวาบอันตราย ดีที่สุดในแนวรุก เชลซี ก็ว่าได้ แต่ปัญหาก็คือจังหวะปิดสกอร์ที่ไม่คม ไม่มั่นใจ จากโอกาสจบทั้งหมด 13 ครั้ง จึงบังคับให้บอลตรงกรอบได้แค่ 3 หน และเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้แค่ 2 ลูก (ในเกมชนะ ลูตัน ทาวน์ 3-0 นัดเดียว) เท่านั้นเอง

Chelsea FC v Aston Villa - Premier League

Chelsea FC v Aston Villa – Premier League / MB Media/GettyImages

ทั้งที่อุตส่าห์ปาดหน้า อาร์เซน่อล มาในตลาดหน้าหนาวหนก่อน แบบยอมทุ่มหนักถึง 70 ล้านยูโร พ่วงแอดออนส์จ่ายเพิ่มเป็น 100 ล้านยูโร แต่จนถึงตอนนี้ แม้แต่ตัว มูดริค เองก็ยอมรับว่าผลงานกับ เชลซี เป็นไปอย่างน่าผิดหวัง

ซีซั่นก่อนลง 17 นัด สำรองกับตัวจริงครึ่งๆ ยิงประตูไม่มี มีแอสซิสต์ 2

ซีซั่นนี้, ที่มาต่อเนื่องหลังจาก มูดริค เสนอตัวไปเล่น ยูโร ยู-21 ชิงแชมป์ยุโรป ทำให้แทบไม่ได้พักช่วงซัมเมอร์, ลงแล้ว 5 เกม…ไม่มีทั้งประตู ไม่มีทั้งแอสซิสต์

อย่างไรก็ตาม ควรให้ความเป็นธรรมกับ มูดริค สักหน่อย ว่าซีซั่นนี้เพิ่งได้เล่นตัวจริงแค่ 2 นัด สำรอง 45 นาทีหลัง 1 เกม และสำรองสิบนาทีท้ายอีก 2 นัด

ด้วยวัยแค่ 22 และการยกระดับจากลีกยูเครนมาสู่ พรีเมียร์ลีก ชัดเจนมากว่า มูดริค ยังต้องการเวลาเพื่อปรับตัวปรับใจ และไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกันที่จะลงล็อค

FBL-ENG-PR-CHELSEA-ASTON VILLA

FBL-ENG-PR-CHELSEA-ASTON VILLA / IAN KINGTON/GettyImages

หนึ่งในการเสริมทัพยุค ท็อดด์ โบห์ลี่ ไม่กี่คนที่สามารถตีตรา “สอบผ่าน” ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อตัวริมเส้นทีมชาติอังกฤษชุดเล็ก งัดฟอร์มที่ดีออกมาโชว์ได้ตั้งแต่ซีซั่นก่อนแล้ว หลังย้ายมาจาก พีเอสวี ช่วงหน้าหนาว ในราคาไม่ถูกไม่แพง (สำหรับสมัยนี้) 30 ล้านปอนด์เศษ

แต่ก็อีกนั่นแหละ อาจวูบวาบอันตราย สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้แนวรับคู่แข่งได้เมื่อลงสนาม คุณภาพในการปิดสกอร์ของ มาดูเอเก้ ก็ยังไม่ถึงระดับที่สามารถคาดหวังและพึ่งพาได้

ซีซั่นก่อนมียิง 1 ลูกในเกมแพ้ อาร์เซน่อล 1-3 ซีซั่นนี้ก็ยิงแล้ว 1 แต่เป็นจุดโทษใน คาราบาว คัพ นัดชนะ เอเอฟซี วิมเบิลดัน 2-1

Chelsea v AFC Wimbledon - Carabao Cup Second Round

Chelsea v AFC Wimbledon – Carabao Cup Second Round / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages

น่าผิดหวัง…น่าผิดหวังอย่างรุนแรง กับความแตกต่างของ นิโคลัส แจ๊คสัน ในตอนปรีซีซั่น กับ นิโคลัส แจ๊คสัน เมื่อ พรีเมียร์ลีก ของจริงเริ่มต้นขึ้น

เพราะแฟนๆ และผู้สันทัดกรณีต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า เชลซี ดูคล้ายๆ ว่ากำลังได้ตัว “ดร๊อกบาคนใหม่” มาอยู่ในทีมแล้ว จากที่ แจ๊คสัน ซึ่งย้ายมาจาก บียาร์เรอัล ยิงได้ 2 ประตูตอนปรีซีซั่น แสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่ดีเลยทั้งการจบสกอร์และการจู่โจมคู่แข่งในฐานะศูนย์หน้าตัวเป้า

แต่เมื่อของจริงเกมจริงอย่าง พรีเมียร์ลีก มาถึง ดร๊อกบาคนใหม่นั่นก็ออกทรง “ลูกากูคนใหม่” ไปเสีย

กระโดกกระเดก สั่นไหว ไร้ความเฉียบคม การตัดสินใจในพื้นที่สุดท้าย การประสานงานเชื่อมเกมกับเพื่อน ทุกอย่างล้วนมีปัญหา

ข้อเท็จจริงคือ แจ๊คสัน ได้โอกาสจบเยอะถึง 18 ครั้ง แต่บังคับให้ตรงกรอบได้แค่ 6 หน รวมถึงเปลี่ยนเป็นสกอร์แค่ 1 ประตูถ้วน — เรตความเฉียบคมอยู่ที่เพียง 5.5% เท่านั้น

และเพียงแค่ช่วงแรกของซีซั่น กองหน้าเซเนกัลก็สร้างจังหวะ “ยิงพลาดแห่งปี” ไปแล้วด้วย จากการเข้าชาร์จระยะ 5 หลาข้ามคานออกไปในเกมแพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-1

FBL-ENG-PR-CHELSEA-NOTTINGHAM FOREST

FBL-ENG-PR-CHELSEA-NOTTINGHAM FOREST / JUSTIN TALLIS/GettyImages

เป็นดีลเซอร์ไพรส์ของ เชลซี ในวันปิดตลาดซัมเมอร์ 1 ก.ย. เมื่อทีมตราสิงห์ยอมทุ่ม 40 ล้านปอนด์ให้ แมนฯ ซิตี้ เพื่อคว้าตัวที่ “ตรงสเป็ค” ว่านอกจากอายุน้อย (21), สารพัดประโยชน์ เล่นได้ทั้งปีกและกลางรุกแล้ว ก็ยังเป็น “ตัวเก่ง” จากอะคาเดมี่ แมนฯ ซิตี้ ด้วย

และที่จริง พาล์มเมอร์ ก็เริ่มสร้างผลงานให้กับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไปแล้วด้วย จากการยิงประตูในเกมชิงโล่ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่เสมอกับ อาร์เซน่อล 1-1 ก่อนแพ้ดวลจุดโทษ จากนั้นก็พังตาข่ายได้ต่อเนื่องอีกในเกมเสมอ เซบีย่า 1-1 ก่อนชนะดวลจุดโทษ ครองแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2023

ดังนั้นแล้ว นี่จึงเป็นชอยส์ที่น่าสนใจในการทำทีมของ โปเช็ตติโน่ เพียงแต่กุนซืออาร์เจนไตน์ก็ต้องหาตำแหน่งที่เหมาะสมกับตัวนักเตะและเหมาะสมกับทีมของเขาให้ได้ ก่อนที่ “ของดีจากซิตี้” จะเจอสนิมเกาะแข้งเกาะขาไปเสียจากการต้องนั่งสำรองกับ เชลซี เหมือนในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งลงสำรอง 3 นัด ยังไม่เคยได้ลงตัวจริง

Cole Palmer

Chelsea FC v Nottingham Forest – Premier League / Visionhaus/GettyImages

ถูกรุมจีบจากหลายทีมในช่วงซัมเมอร์ เมื่อหลายทีมเหล่านั้นมองเห็น “แววดี” จากหัวหอกร่างยักษ์ (191 ซม.) ทีมชาติอัลเบเนีย ที่เคยถูกส่งไปเล่นยืมตัวกับ เซาแธมป์ตัน และยิง 9 ประตูในซีซั่น 2021/22

อย่างไรก็ตาม นอกจากที่ โปเช็ตติโน่ จะอยากเก็บไว้เป็นตัวเลือกหน้าเป้าเองแล้ว ก็ยังติดปัญหาที่ โบรย่า บาดเจ็บในตลอดช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมา และเพิ่งจะฟื้นฟิตกลับลงสำรอง 10 นาทีท้ายในเกมแพ้ แอสตัน วิลล่า เมื่อวันอาทิตย์นี่เอง

ฉะนั้น ถ้าถึงเวลาที่ฟิตเต็มถัง หอกวัย 22 ก็มีโอกาสจะแจ้งเกิดเบ่งบานได้เหมือนกัน อย่างน้อย แฟนๆ เชลซี ก็คงได้ลุ้นกับ โบรย่า มากกว่าจะต้องส่ายหัวถอนหายใจยาวกับ นิโคลัส แจ๊คสัน อยู่ร่ำไป

Armando Borja

Chelsea FC v Aston Villa – Premier League / Ben Hoskins/GettyImages

มาด้วยความหวังเจิดจรัสว่า 52 ล้านปอนด์ที่ลงทุนไป จะได้ผลตอบแทนสวยงาม อย่างที่กองหน้าฝรั่งเศสเคยจัดแจ่มๆ ให้ แอร์เบ ไลป์ซิก เป็น 23 ประตูในซีซั่นก่อน และ 35 ประตูในซีซั่นก่อนโน้น (2021/22)

และในช่วงปรีซีซั่น เอ็นคุนคู ก็เป็นอีกคนที่สอบผ่านฉลุย ยิงได้ถึง 3 ประตู ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าพร้อมเล่นทั้งหน้าเป้าและตัวต่ำสนับสนุน นิโคลัส แจ๊คสัน อีกต่างหาก

แต่เกมส่งท้ายปรีซีซั่น (เสมอ ดอร์ทมุนด์ 1-1) นั่นเองที่พราก เอ็นคุนคู ไปจาก เชลซี ด้วยอาการเจ็บเข่าที่ต้องถึงขึ้นเขียงผ่าตัด ดีไม่ดีจะฟิตกลับมาได้อีกทีก็หลังปีใหม่ 2024 ไปแล้ว

Christopher Nkunku

Chelsea FC v Borussia Dortmund – Pre-Season Friendly / Matthew Ashton – AMA/GettyImages

หอกเป้าดาวรุ่งวัยเพียง 18 แม้จะมีผลงานกับ ซานโตส (เท่าที่มีบันทึกไว้) แค่ 2 ประตูจาก 16 นัดของลีกบราซิล แต่ก็มากพอให้ทีมแมวมองทำเรื่องถึง เชลซี ที่ปิดดีลได้อย่างรวดเร็วด้วยข้อเสนอ 13.7 ล้านปอนด์ บวกโบนัส 3.4 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม ถึงตอนนี้ เดวิด วอชิงตัน ยังไม่ได้โอกาสประเดิมสนามกับ เชลซี แต่อย่างใด แม้จะถูกใส่ชื่อไว้เป็นตัวเลือกสำรอง 2-3 นัดแล้วก็ตาม

FBL-SUDAMERICANA-AUDAX-SANTOS

FBL-SUDAMERICANA-AUDAX-SANTOS / MARTIN BERNETTI/GettyImages

หากประเมินในแค่ช่วงเดือนเศษๆ แรกของซีซั่นใหม่นี้ ชัดเจนว่า 278 ล้านปอนด์นั่น คือการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำครั้งใหญ่มากของ ท็อดด์ โบห์ลี่

ตัวเก่าที่ควรเป็นความหวังอย่าง สเตอร์ลิ่ง สร้างผลงานที่เคยเป็นมาตรฐานเก่าของตัวเอง ไม่ได้

มูดริค หรือ มาดูเอเก้ ยังใหม่และยังเด็ก

เอ็นคุนคู กับ โบรย่า บาดเจ็บ

นิโคลัส แจ๊คสัน …อย่าให้วิจารณ์มากไปกว่านี้

พาล์มเมอร์ กับ เดวิด วอชิงตัน ก็ยังไม่ได้โอกาสลงน้ำเต็มที่

อย่างไรก็ตาม การจะตัดสินผลงานใครก็ตาม ควรต้องเปิดพื้นที่และเวลาให้มากกว่านี้หน่อย อย่างน้อยก็จนถึงหมดครึ่งซีซั่นแรก และดีไม่ดีก็ต้องดูกันยาวๆ จนจบซีซั่น

เท่าที่เป็นจนตอนนี้ สเตอร์ลิ่ง กับ แจ๊คสัน คือ 2 ตัวยืนในเกมรุก คนหนึ่งลุยริมเส้นขวา คนหนึ่งปักหลักหน้าเป้า แต่ในระยะยาว โปเช็ตติโน่ ก็ยังมีสิทธิ์ปรับเปลี่ยน ยังมีโอกาสที่คนอื่นซึ่งทำได้ดีกว่า เข้าตากว่า จะกลายมาเป็นตัวเลือกแรกแทนที่

ดังนั้นก็คงต้องดูกันต่ออีกหน่อย อะไรๆ ยังมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลง หอกจอมทื่ออย่าง แจ๊คสัน ก็ยังมีโอกาสพลิกชะตาตัวเอง กลายเป็นยอดดาวยิงได้ในอนาคต

หรือไม่ ช่วงตลาดหน้าหนาวก็คงมีปลิ้นเงินอีกก้อน ซื้อดาวยิงใหม่ใครสักคน (ดูซาน วลาโฮวิช, วิกเตอร์ โอซิมเฮน, ไอแวน โทนี่ย์ ฯลฯ) เข้ามา เมื่อการสร้างทีมชุดนี้ก็ออกทรง “ใช้เงินแก้ปัญหา” มาตลอดอยู่แล้ว อีกสักคนจะเป็นไรไป…

Mauricio Pochettino, Cole Palmer, Lesley Ugochukwu

Chelsea FC v Aston Villa – Premier League / Justin Setterfield/GettyImages



Source link

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *