7 ข้อต้องรู้ “คิตฉี เอสซี” ด่านสำคัญของ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในเอซีแอล
โดยศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ปเอฟ ระหว่าง คิตฉี กับ แบงค็อก จะแข่งขันกันที่ มง ก๊ก สเตเดี้ยม ในวันพุธที่ 25 ตุลาคม 2023 เวลา 19.00 น.
[ 1 ] ความสำเร็จในอดีต
พวกเขาคือสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของฮ่องกง (นับเฉพาะยุคใหม่ นับตั้งแต่ปี 2014) กับการผงาดเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศได้ถึง 6 ครั้ง
นอกจากนี้ ด้วยความที่ คิตฉี เอสซี ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1931 ทำให้ เดอะ บลูเบิร์ดส์ เป็นอีกทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และถือเป็นสโมสรเก่าแก่
[ 2 ] สไตล์การเล่น
ยามเล่นในประเทศ คิตฉี จะเดินหน้าเล่นเกมรุกเต็มสตรีม ฤดูกาลล่าสุดพวกเขายิงคู่แข่งในลีกไปถึง 76 ประตู มากกว่า ลี่ หมาน ซึ่งเข้าป้ายอันดับ 2 ถึง 20 กว่าลูก เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ยามออกมาเล่นถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก – เดอะ บลูเบิร์ดส์ ก็รู้ตัวเองดีว่ามาตรฐานยังเป็นรองคู่แข่งจากต่างแดน ดังนั้นแท็กติกจึงค่อนข้างรัดกุมมากๆ ซึ่งก็มักจะสร้างปัญหาให้ฝั่งตรงข้ามบ่อยครั้ง โดยเฉพาะสโมสรจากไทย ที่เจอทีเด็ดของ คิตฉี เป็นประจำ
[ 3 ] ผลงานในถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก
ด้วยความที่พวกเขามักจะคว้าแชมป์ฮ่องกง ได้สม่ำเสมอ คิตฉี จึงมักจะได้โควตาเข้าไปเล่นฟุตบอลถ้วยเอเชีย เป็นประจำ โดยเฉพาะรายการ เอเอฟซี คัพ ที่เคยทะลุถึงรอบรองชนะเลิศเมื่อปี 2014
ส่วนในทัวร์นาเมนต์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนหน้านี้พวกเขากระเด็นตกรอบเพลย์-ออฟทุกครั้ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโดน ชลบุรี เอฟซี เขี่ยร่วงในปี 2015
กระทั่งซีซั่น 2018 คิตฉี ก็ได้สัมผัสประสบการณ์ของศึกใหญ่แห่งทวีปสักที แม้จะแพ้ไป 5 เกม แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นบทเรียนอันล้ำค่าที่ได้กลับไปพัฒนาต่อ จนทุกวันนี้ได้กลายเป็นขาประจำของรายการนี้เรียบร้อยแล้ว แถมยังทะลุรอบน็อก-เอาต์ในฤดูกาล 2022-23 อีกต่างหาก
[ 4 ] เฮดโค้ช
คิตฉี เพิ่งแยกทางกับ ชู ชิ คว็อง กุนซือผู้เก่งกาจที่พาทีมคว้าแชมป์ลีกฮ่องกง ได้ถึง 6 สมัย เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก่อนจะแต่งตั้ง คิม ดอง-จิน อดีตแบ็กซ้ายทีมชาติเกาหลีใต้ มาเป็นเฮดโค้ชรักษาการ
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่หนแรกที่ แนวรับเลือดกิมจิมารับหน้าที่นี้กับ เดอะ บลูเบิร์ดส์ เพราะเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ที่ต้องสวมบทเทรนเนอร์ขัดตาทัพ
แม้จะไม่ใช่เฮดโค้ชแบบถาวร แต่ด้วยความที่เขามีประสบการณ์มากมาย บวกกับความที่อยู่กับ คิตฉี มาตั้งแต่ปี 2017 มันจึงทำให้รู้จักลึกตื้นหนาบางของสโมสรเป็นอย่างดี แถมการที่เคยเล่นให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด มันจึงน่าจะทำให้ ดอง-จิน ย่อมมีแผนการที่แยบยลไว้รอรับมือ แบงค็อก ยูไนเต็ด แน่นอน
[ 5 ] โควตาต่างชาติ
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 ปรับกฎใหม่ให้ส่งผู้เล่นต่างชาติลงได้ในโควตา 5+1 (นักเตะนอกทวีป 5 + นักเตะเอเชีย 1) ซึ่งทาง คิตฉี ก็มาครบตามจำนวน โดยมีรายชื่อดังนี้
– โอเจนยี่ โอนาซี่ (กองกลาง, ไนจีเรีย) อดีตกองกลางทีมชาติไนจีเรีย ชุดแชมป์ แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2013 แถมยังเล่นในยุโรป กับสโมสรใหญ่อย่าง ลาซิโอ และ แทร็บซอนสปอร์ มาแล้ว กระทั่งย้ายมาประจำการในแผงมิดฟิลด์ให้ คิตฉี เมื่อช่วงกลางปี 2023 นี้เอง
– คเลตอน (กองกลาง, บราซิล) มิดฟิลด์คนสำคัญของ เดอะ บลูเบิร์ดส์ ที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2019
– มิคาแอล (กองกลาง, บราซิล) แนวรุกจอมพลิ้ว มีทีเด็ดที่การสอดขึ้นไปทำประตู และเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนบน
– จูนินโญ่ (กองกลาง, บราซิล) เพลย์เมเกอร์ผู้เจนจัดเวทีฟุตบอลเอเชีย เพราะย้ายมาที่นี่ตั้งแต่ปี 2016 และค่อยๆ สร้างชื่อในลีกฮ่องกง กระทั่งถูก คิตฉี กระชากตัวมาอยู่กับทีมในซีซั่นปัจจุบัน
– ยาค็อบ แยนต์เชอร์ (ปีก, ออเสตเรีย) อีกหนึ่งแนวรุกคนสำคัญของทีม มาพร้อมดีกรีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ‘นักเตะยอดเยี่ยม’ ลีกออสเตรีย 2021-22 และยังมีดีกรีทีมชาติพ่วงท้ายพกติดตัวด้วย
– รุสลัน มินกาซอว์ (ปีก, เติร์กเมนิสถาน) โควตาเอเชีย หนึ่งเดียวของสโมสร และก็ยังเป็นนักเตะทีมชาติเช่นเคย แต่ที่เด็ดดวงที่สุดคือการเป็น ‘ดาวซัลโว’ ลีกฮ่องกง 2022-23 ทั้งๆ ที่ไม่ใช่กองหน้าตัวเป้า
[ 6 ] นักเตะเด่น
แม้ว่ามาตรฐานของลีกฮ่องกง จะไม่ได้สูงเทียบเท่ากับหลายๆ ประเทศของเอเชีย แต่พวกเขานำเข้านักเตะต่างชาติที่มีคุณภาพสูงอยู่ตลอด นั่นจึงเป็นเหตุให้นักเตะเด่นของ คิตฉี จึงเป็นแข้งนอกทวีป
หากเทียบฟอร์ม ณ ชั่วโมงนี้ ต้องยกให้ จูนินโญ่ แนวรุกชาวบราซิล ที่เล่นได้ทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะริมเส้น, เพลย์เมเกอร์หรือกระทั่งกองหน้า เป็นความหวังสูงสุดของ เดอะ บลูเบิร์ดส์ เนื่องจากมีเซ้นส์ฟุตบอลที่ร้ายกาจ และยังจบสกอร์ได้เฉียบขาดมากๆ
[ 7 ] นักเตะน่าจับตามอง
รุสลัน มินกาซอว์ ปีกทีมชาติเติร์กเมนิสถาน ผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในยุโรป กับการคว้าแชมป์ลีกลัตเวีย และเช็ก มาแล้ว ซึ่งพอมาอยู่กับ คิตฉี ในซีซั่น 2022-23 ก็พาทีมคว้าโทรฟี่ลีกฮ่องกง ได้ทันที แถมตนเองยังยิงประจุยจนเป็นดาวซัลโวอีกต่างหาก
เขาเป็นจอมทักษะที่เบสิกแน่นปึ๊ก แม้จะไม่ได้มีสปีดต้นที่จัดจ้าน แต่เรื่องความฉลาดในการเล่นนั้นต้องยอมรับเลยว่าบอลที่ออกจากเท้าหมอนี่สามารถพลิกเกมได้ในชั่วพริบตาเลยทีเดียว
