คอสตาส ซิมิคาส อนาคตดับ! 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล บุกแพ้ ตูลุส สุดระทึก
1. ตูลูส ไม่เข็ดส่งทีมชุดเดิมบู๊
ตูลูส ตัดสินใจใช้งาน 11 นักเตะชุดเดิมทุกตำแหน่งจากเกมบุกไปแพ้ ลิเวอร์พูล ยับเยิน 5-1 ในนัดแรก
อย่างไรก็ดี ในจำนวนนี้ ไธจ์ส ดัลลิงก้า กองหน้าดัตช์จัดว่าอยู่ในช่วงฟอร์มดีเพราะนอกจากจะยิงประตูได้ที่ แอนฟิลด์ แล้ว เกม ลีกเอิง นัดล่าสุดที่แพ้คารังให้กับ เลอ อาร์ฟ 2-1 เขาก็สอยตาข่ายได้เช่นกัน
ถึงกระนั้น ตูลูส อยู่ในช่วงมีผลงานเลวร้ายอย่างแรงไม่ชนะเลยจากการลงสนามห้านัดหลังในทุกรายการ แถมแพ้สามนัดรวดอีกต่างหาก
2. ดิอาซ ออกสตาร์ตฉลองปล่อยตัวพ่อ
ลิเวอร์พูล ได้รับข่าวดีก่อนเกมเมื่อคุณพ่อของ หลุยส์ ดิอาซ ที่ถูกกลุ่มก่อการร้ายลักพาตัวไปนานเกือบสองสัปดาห์ได้รับการปล่อยตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ หงส์แดง ใส่ชื่อปีกทีมชาติ โคลอมเบีย ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมแรกนับตั้งแต่เขาได้รับข่าวร้าย
รวมแล้ว เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือทีมเยือนเปลี่ยนโผตัวจริงมากถึงเก้ารายโดยนอกจาก ดิอาซ แล้ว เบน โด๊ค เป็นอีกรายที่ได้ลงสนามเป็น 11 คนแรก
สำหรับสองขุนพล เร้ด แมชีน ที่ยังได้ลงบู๊เป็นตัวจริงเช่นเดียวกับเกม พรีเมียร์ลีก นัดบุกไปเสมอกับ ลูตัน 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ได้แก่ โจ โกเมซ กับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์
3. ซิมิคาส ถูกหมายหัว?
ลิเวอร์พูล เสียประตูก่อนอย่างผิดความคาดหมาย และเป็นการก่อความผิดพลาดโดยส่วนตัวของ คอสตาส ซิมิคาส ที่เปิดโอกาสให้ อารอน ดันดุม ฉกบอลไปกระทุ้งผ่าน ควีวิน เคลเลเฮอร์ เข้าประตูให้เจ้าบ้านออกนำในนาทีที่ 35
อันที่จริง หลังจาก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เข้ารับการผ่าตัดหัวไหล่ ตำแหน่งแบ็คซ้ายของ หงส์แดง น่าจะตกเป็นของดาวเตะทีมชาติ กรีซ อย่างถาวรจนกว่าสตาร์ทีมชาติ สกอตแลนด์ จะหายดี แต่เท่าที่เห็น เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ได้คิดใช้งานดาวเตะวัย 27 ปีอย่างต่อเนื่อง
โดยเกมแรกที่บู๊กับ ตูลูส กุนซือด๊อยทช์เลือกส่งดาวรุ่ง ลุค แชมเบอร์ส ออกสตาร์ต และจากนั้นในเกมลีกแมตช์ล่าสุดที่ทีมบุกไปเสมอกับ ลูตัน คล็อปป์ เลือกส่ง โจ โกเมซ ลงเล่นเป็นแบ็คซ้ายมันจึงอาจสื่อว่าเขาไม่สู้จะเชื่อใจ ซิมิคาส สักเท่าไหร่ก็ได้ทั้งๆที่ทีมปราศจาก โรเบิร์ตสัน แท้ๆ และในเมื่อดาวเตะทีมชาติ กรีซ มาพลาดแบบเข้าตาอย่างนี้ มันจึงน่าเป็นห่วงอนาคตของเขากับถิ่น แอนฟิลด์ ไม่น้อย
อย่างไรก็ดี จบครึ่งแรก หงส์แดง ไม่ถึงกับมีเกมที่น่าประทับใจเนื่องจากพวกเขาเหนือกว่าแค่การครองบอล 70:30% โดยทั้งสองทีมได้ยิงและเข้ากรอบเท่ากันคือ 7-2 ครั้ง
4.แสบจริง ดัลลิงก้า
และในที่สุด เริ่มครึ่งหลัง ซิมิคาส ก็โดนเปลี่ยนตัวออกทันทีโดยมี โดมินิค โซโบซไล ได้ลงเล่นแทนเช่นเดียวกับ วาตารุ เอ็นโด และ โด๊ค ที่เสียตำแหน่งให้กับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และ โม ซาลาห์ ขณะที่ โกเมซ ถูกย้ายมาเล่นเป็นแบ็คซ้ายอีกหน
กระนั้นก็ดี นาทีที่ 58 ตูลูส หนีห่างเป็น 2-0 จากประตูของ ดัลลิงก้า เจ้าเก่าที่ซัดได้อย่างคมกริบ และมันเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าชั่วโมงนี้กองหน้าเลือดกังหันลมกำลังสอยตาข่ายได้อย่างเข้าฝัก และเป็นตัวแสบของ เร้ด แมชีน ในเกมนี้จนได้
สำหรับ ลิเวอร์พูล ฉันใดก็ฉันนั้นเพราะพวกเขามี ดีโอโก้ โชต้า อยู่ในทีมทั้งคน และหากดาวยิงทีมชาติ โปรตุเกส ถูกส่งลงสนามเมื่อไหร่ก็เชื่อชนมกินได้เลยว่าเขาสามารถทำประตูให้ทีมได้อย่างเกมนี้ก็เช่นกันที่เจ้าตัวถูกส่งลงเล่นแทน ดิอาซ ที่เลื้อยไม่ออกในนาทีที่ 82 แต่ยิงให้ทีมเยือนตีตื้นได้เป็น 3-2 ในนาทีที่ 89 จากการโชว์ความนิ่ง และความเหนือชั้นให้เห็น
สุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล บุกมาแพ้ไปแบบสนุก 3-2 แต่ต้องยอมรับว่าเกมนี้ ตูลูส เล่นกันได้ดี และช่วยกันบล็อคลูกอันตรายจากฝ่ายตรงข้ามได้หลายจังหวะกระทั่งเก็บสามแต้มเต็มได้สำเร็จจากโอกาสยิง 11 ครั้งเข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่ ลิเวอร์พูล ซึ่งครองบอลเหนือกว่าสูงถึง 71:29% ได้ยิง 19 ครั้ง แต่เข้ากรอบน้อยกว่า 4 ครั้ง
5. ที่นี่ ตูลูส
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่เป็นอันขาดเนื่องจากสถิติบ่งชี้ว่า ตูลูส มีผลงานในฟุตบอลยุโรปเกมเหย้าที่แข็งแกร่งสุดขีด
จากสองเกมก่อนหน้านี้ พวกเขาเอาชนะได้ทั้ง ปาร์ติซาน เบลเกรด เดือนธ.ค.2009 และล่าสุดในซีซั่นนี้ที่ทีมเมืองน้หอมเปิดบ้านคว่ำ แอลเอเอสเค 1-0 เมื่อเดือนก่อน กระทั่งถอนแค้น ลิเวอร์พูล อวดแฟนบอลทีมตัวเองได้อย่างเหลือเชื่อ
นอกจากนี้ เร้ด แมชีน เองมีผลงานที่เลวร้ายในการบุกมาเล่นที่ ฝรั่งเศส เช่นกันเนื่องจากเป็นเกมยุโรปนัดที่ห้าติดต่อกันแล้วที่ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ไม่อาจบุกมากำชัยในเมืองน้ำหอมได้จากผลเสมอกับ ลียง และ บอร์กโดซ์ ก่อนแพ้ ลีลล์ และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง รวมถึงเกมล่าสุดที่พ่ายต่อ ตูลูส
ยิ่งไปกว่านั้น ผลลัพธ์จากเกมล่าสุดทำให้ คล็อปป์ ซึ่งคุม ลิเวอร์พูล ลงเล่นเป็นเกมที่ 450 ของเขาพอดีจากทุกรายการนับตั้งแต่เข้ามารับงานในเดือนต.ค.2015 ชวดทำลายสถิติของสโมสรด้วยเพราะหากนายใหญ่ชาวเมืองไส้กรอกพาทีมคว้าชัยได้ เขาจะเก็บแต้มได้มากที่สุดในถ้วย ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่มมากกว่า 10 แต้มซึ่งเป็นสถิติของถิ่น แอนฟิลด์ ที่อุบัติขึ้นในซีซั่น 2010/11 , 2012/13 และ 2015/16