นักเตะพันล้านสู่ผู้ต้องหา ‘โรนัลโด’ ถูกฟ้องเกี่ยว NFT-Binance ได้อย่างไร

เอ่ยชื่อของ คริสเตียโน โรนัลโด ขึ้นมา แทบทุกคนย่อมรู้จักซูเปอร์สตาร์นักเตะแข้งพันล้านรายนี้เป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนเวลานี้สถานะพันล้านของเขามีโอกาสจะเปลี่ยนเป็น “ผู้ต้องหาพันล้าน” แทนแล้ว

หลังจากที่ถูกฟ้องร้องในคดีที่มีความเกี่ยวข้องกับ NFT และ Binance เรื่องนี้ทำให้แฟนฟุตบอลทั่วโลกต่างสับสนว่าทำไมจู่ๆนักฟุตบอลยอดขวัญใจของแฟนทั่วโลกจึงตกเป็นผู้ต้องหา เขามีส่วนเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับเรื่องนี้อย่างไร? 

และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่อาจช่วยให้คลายความสงสัยลงได้บ้าง

NFT ‘CR7’ ต้นเหตุของเรื่องราว
    
ตามรายงานข่าวจาก CNN และ BBC ระบุว่าว่าศาลฟลอริดาได้รับคำร้องคดีเกี่ยวกับนักเตะขวัญใจแฟนฟุตบอลทั่วโลก โดยในคำร้องระบุว่า โรนัลโด “โปรโมท ให้ความช่วยเหลือ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่วมมือกับ Binance ในการเสนอและการขายที่ไม่มีการลงทะเบียนความปลอดภัย”

ความร่วมมือกับ Binance ที่ว่านั้นมาจากการที่ซูเปอร์สตาร์นักเตะชาวโปรตุเกส ซึ่งปัจจุบันเล่นให้กับสโมสรอัล-นาสเซอร์ ในลีกซาอุดีอาระเบีย ได้มีการประกาศความร่วมมือกับ Binance แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่วงการคริปโตเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022

    
ทั้งสองฝ่ายร่วมกันออก NFT คอลเล็คชั่นพิเศษที่ชื่อว่า “CR7” ซึ่งเป็นคอลเล็คชั่นเฉพาะของโรนัลโดในชุดอัล-นาสเซอร์ โดยที่แฟนๆที่ซื้อคอลเล็คชั่นนี้ไปสะสมนอกจากจะได้เป็นเจ้าของผลงานแล้ว  ยังมีโอกาสพิเศษในการได้พบกับโรนัลโดตัวเป็นๆด้วย
    
โดยที่โรนัลโด ซึ่งมีจำนวนผู้ติดตามบนโลกออนไลน์ถึง 850 ล้านคนได้ช่วยโปรโมทผลงานดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่คอลเล็คชั่นพิเศษของตัวเอง แต่รวมถึงการโปรโมท Binance ให้ด้วย
    
“เราจะเปลี่ยนเกมของ NFT และพาฟุตบอลไปอีกระดับ” โรนัลโดกล่าวในตอนเปิดตัว ในสัปดาห์แรก NFT ในระดับพรีเมียมของ คอลเล็คชั่น CR7 ก็ถูกจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว
    
แต่ 1 ปีถัดมาคอลเล็คชั่นพิเศษของโรนัลโดชิ้นที่เคยมีมูลค่าถูกสุดที่ 77 ดอลลาร์หรือราว 2,700 บาทในตอนเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ปัจจุบันเวลาผ่านมาแค่ปีเดียวมีมูลค่าเหลือเพียงแค่ 1 ดอลลาร์หรือแค่ 35 บาทเท่านั้น

โรนัลโดทำผิดอะไร?

การได้โรนัลโดมาเป็นพันธมิตรทำให้ Binance แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ในช่วงที่มีการเปิดตัวคอลเล็คชั่น CR7 ปรากฏว่ามีการค้นหาคำว่า “Binance” เพิ่มขึ้นถึง 500 เปอร์เซ็นต์ในกลุ่มคนที่สนใจลงทุน
    
หรือพูดง่ายๆคือมีกลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่ที่ลงทุนเพราะเชื่อในตัวโรนัลโดไม่น้อย โดยที่กลุ่มนี้ไม่เพียงแค่ซื้อคอลเล็คชั่น CR7 แต่ยังลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์มของ Binance อีกด้วย    
    
และจุดนี้เองได้กลายเป็นที่มาของปัญหาใหญ่
    
เพราะนักลงทุนที่ทำการลงทุนกับ Binance ได้มีการลงทุนกับทรัพย์สินดิจิทัลที่ “ไม่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานทางการเงิน” ที่เกี่ยวข้องด้วย นั่นทำให้เขาถูกฟ้องร้องว่าโรนัลโด ควรจะรับรู้หรืออาจจะรู้อยู่แล้วด้วยความที่มีภูมิหลังและประสบการณ์ด้านการลงทุนว่า Binance เปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้รับการลงทะเบียนซึ่งถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายในสหรัฐอเมริกา

พูดง่ายๆคือถึงคอลเล็คชั่น “CR7” จะถูกต้อง แต่ Binance ดันเปิดให้ลงทุนในเหรียญ (Tokens) อื่นๆซึ่งมีเหรียญที่ไม่ได้ลงทะเบียนความปลอดภัยอย่างถูกต้องด้วย โรนัลโดจึงซวยถูกหางเลขไปด้วย

การที่คนที่มีชื่อเสียงและมีความมั่งคั่งอย่างโรนัลโดมาช่วยโปรโมทให้ Binance เป็นการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในทรัพย์สินที่ไม่ได้รับการลงทะเบียนอย่างถูกต้อง มีคนหลวมตัวทำตามเป็นจำนวนมาก
    
มีการประเมินว่าค่าเสียหายที่เกิดขึ้นสูงถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 35,000 ล้านบาท

    
    
โรนัลโดเป็นคนเดียวที่มีปัญหา?

โรนัลโด ไม่ได้เป็นนักกีฬาผู้มีชื่อเสียงคนเดียวที่ถูกฟ้องร้องในเรื่องใกล้เคียงกัน ยังมี แชคคีล โอนีล ตำนานยอดนักบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอที่ถูกฟ้องในลักษณะคล้ายคลึงกัน หลังร่วมมือกับ FTX ในการโปรโมทการลงทุนแบบเดียวกัน

ขณะที่ ลิโอเนล เมสซี คู่แข่งฟ้าประทานของเขาก็มีการช่วยโปรโมตให้กับบริษัทคริปโตเหมือนกัน โดยกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาโปรโมตให้กับ Socios ที่จำหน่าย NFT เกี่ยวกับวงการกีฬา รวมถึงบริษัทอื่นๆด้วย

นอกจากนี้ยังมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงรายอื่นๆอีกอย่าง DJ Khaled ศิลปินนักดนตรีชื่อดัง ที่ร่วมกับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ตำนานนักมวยที่โปรโมท Initial Coin Offerings (ICOs) แต่ไม่มีการเปิดเผยจำนวนรายได้ที่ได้รับจากการช่วยโปรโมท

เรียกว่า CR7 ไม่ใช่คนแรก และจะไม่ใช่คนสุดท้ายที่เจอเรื่องแบบนี้
 

แล้วจะทำอย่างไรต่อไป?

สำหรับโรนัลโดที่ตัวอยู่ซาอุดีอาระเบีย ไม่ได้ออกมาชี้แจงหรือตอบโต้ในๆเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น 

เพียงแต่นักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญพิเศษเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลเชื่อว่าซูเปอร์สตาร์ลูกหนังวัย 38 ปีจะทำการหารือกับที่ปรึกษาทางกฎหมายของเขาก่อน เพื่อหาข้อสรุปก่อนว่าการฟ้องร้องครั้งนี้เป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ และจะมีแนวทางในการต่อสู้อย่างไร หรือจะทำอย่างไรเพื่อยุติคดีได้บ้าง

ปัญหาอยู่ที่ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นมหาศาลถึง “พันล้าน” ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะมีการตกลงกันนอกรอบตั้งแต่ช่วงต้นแบบนี้ และมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการไต่สวนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย แต่เชื่อว่าโรนัลโดจะพยายามหาทางเลี่ยงการไต่สวนสาธารณะ ซึ่งจะสูญเสียทั้งเงินมหาศาลในการว่าจ้างทนายความดำเนินคดีและเสียเวลาในการชี้แจงต่อศาลด้วย

ขณะเดียวกันคดีนี้ของโรนัลโด เชื่อว่าจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะจะเป็นกรณีที่เป็นบรรทัดฐานว่า ศาลสหรัฐฯ จะมีการตัดสินเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร ทั้งบทบาทของนักกีฬาที่ถูกว่าจ้างมาเพื่อทำการโปรโมต ไปจนถึงบริษัทที่จ้างทำการโปรโมทผลิตภัณฑ์หรือทรัพย์สินดิจิทัล

แต่ที่แน่ๆคือข่าวนี้ไม่ช่วยให้ภาพลักษณ์ของ Binance และวงการ NFT ดูดีเท่าไรนัก หลังจากที่สถานการณ์เลวร้ายอย่างต่อเนื่องแตกต่างจากช่วง 2 ปีก่อน

อ้างอิง – cnn , bbc และ theathletic