“โรนัลโด้” ถูกยื่นฟ้อง 1 พันล้านเหรียญ โปรโมตซื้อ-ขายเงินดิจิทัล
คริสเตียโน โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังโปรตุกีส เจอฟ้องร้องมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 35,200 ล้านบาท) หลังโปรโมต “ไบแนนซ์ (Binance)” บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีใหญ่สุดของโลก
สำนวนฟ้องต่อศาล ที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวหา อดีตนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ รีล มาดริด โฆษณาชวนเชื่อ, ร่วมมือ และ/หรือมีส่วนร่วมต่อการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนกับ “ไบแนนซ์”
“เดอะ ไทม์ส” สื่อของอังกฤษ รายงาน โจทก์อ้างว่าการโปรโมตองค์กรของ โรนัลโด้ วัย 38 ปี ก่อให้เกิดภาวะขาดทุนของบริษัท
กองหน้าตัวเก๋า อัล-นาสเซอร์ เซ็นสัญญาระยะยาวกับ “ไบแนนซ์” ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อเป็นพรีเซนเตอร์ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ “เอ็นเอฟที (NFT)”
สินทรัพย์เหล่านี้เป็นสิ่งสมมติ สำหรับยืนยันความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ผ่านระบบ บล็อคเชน (Blockchain) และสามารถซื้อ-ขายกันได้
เจ้าของรางวัล “บัลลง ดอร์” 5 สมัย เผยว่าจะตอบแทนผู้ติดตามที่เป็นแฟนตัวจริง สำหรับการสนับสนุนมายาวนาน “เราจะสร้างบางอย่างเพื่อเป็นที่ระลึกแก่แฟนๆ ของผม เนื่องจากพวกเขาบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของผม”
“การร่วมมือกับ ไบแนนซ์ ผมสามารถทำอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่เพียงดึงดูดความคลั่งไคล้กีฬา แต่ยังตอบแทนแฟนๆ ที่ให้กำลังใจผมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา”
เจ้า เผิงชาน ผู้ก่อตั้งร่วม และป่ระธานบริหาร “ไบแนนซ์” ยอมรับผิดข้อหาฟอกเงิน และต้องจ่ายค่าปรับ 50 ล้านเหรียญ (1,760 ล้านบาท) ตามเงื่อนไขหนึ่งของข้อตกลงยอมความมูลค่า 4 พันล้านเหรียญ (141,000 ล้านบาท) ระหว่าง ไบแนนซ์ กับ กระบวนการยุติธรรม
โรนัลโด้ ย้ายมาพักอาศัย ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย นับตั้งแต่ถูก แมนฯ ยูไนเต็ด ยกเลิกสัญญากลางฤดูกาล 2021/22 ยิง 32 ประตู กับ 11 แอสซิสต์ หลังย้ายมาค้าแข้งย่านตะวันออกกลาง
