ตัดเกรดนักเตะ เชลซี เกม คาราบาว คัพ รอบ 3 นัดเชือด ไบรท์ตัน 1-0 ลิ่วเข้ารอบได้ต่อไป : Player Ratings
รายการ: ฟุตบอล คาราบาว คัพ 2023/24 รอบ 3
วันแข่งขัน: วันพุธที่ 27 กันยายน 2566
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน: เชลซี 1-0 ไบรท์ตัน
ในขณะที่ผลงาน พรีเมียร์ลีก ยังคงน่าส่ายหัวอยู่ทุกสุดสัปดาห์ เมื่อมาถึงคิวกลางสัปดาห์อย่าง คาราบาว คัพ แล้ว ก็กลายเป็นถ้วยเดียวที่ “คืนความสุข” ให้แฟนๆ เชลซี ได้ฉีกยิ้มกันบ้าง โดยรอบที่แล้วแซงชนะ เอเอฟซี วิมเบิลดัน 2-1 มารอบนี้ ก็เบียดชนะ ไบรท์ตัน ได้ 1-0 จากประตูโทนของ นิโคลัส แจ๊คสัน
โรเบิร์ต ซานเชซ – 5
น.24 รอดพ้นการเสียประตูอย่างหวุดหวิดหลังเตะเปิดเกมไปเข้าเท้า ชูเอา เปโดร ที่โดนยิงสวนข้ามคานนิดเดียว เช่นเดียวกับนาที 33 ที่ออกบอลให้เพื่อนแล้วโดนตัด ยังดีที่เซฟแก้ตัวได้ รวมถึงช่วงท้ายที่เซฟสำคัญไม่ให้โดนตีเสมอ
เบน ชิลเวลล์ – 6
ได้คืนตัวจริงอีกครั้งที่ตำแหน่งแบ็กซ้าย แต่กลับเป็นเกมที่ไม่ค่อยเฉิดฉาย ไม่ได้เล่นกับบอลบ่อยครั้งนัก เน้นรับมากกว่ารุก และต้องเดี้ยงออกจากสนามอีกแล้วในช่วงทดเจ็บ
ลีวาย โคลวิลล์ – 6
รับบทหนักทีเดียวว่านอกจากต้องดวลกับ ชูเอา เปโดร อยู่ตลอดแล้ว ก็ยังต้องทำหน้าที่ขึ้นเกมจากแนวหลัง ที่ตรงบ้างไม่ตรงบ้างก็คละๆ กันไป
อักเซล ดิซาซี่ – 7
ไม่ได้ต้องเจองานหนักมากนักเมื่อหน้าเป้าของเจ้าถิ่นอย่าง ชูเอา เปโดร ไปชนกับ โคลวิลล์ เสียเป็นส่วนมาก แต่ก็คุมพื้นที่ได้ดี มีจังหวะสกัดสำคัญๆ โดยเฉพาะเมื่อ ไบรท์ตัน โถมเกมจะเอาประตูตีเจ๊า
มาร์ก กูกูเรย่า – 6
ต้องปวดหัวหนักมากกับการยืนแบ็กขวาตำแหน่งไม่ถนัด แถมเป็นการต้องเผชิญหน้ากับตัวจี๊ดอย่าง คาโอรุ มิโตมะ แต่ก็ยังดีที่วันนี้ ปีกไบรท์ตันไม่ได้ท็อปฟอร์ม รวมถึงว่ายังำด้ ยาน มาตเซ่น ถอยมาช่วยงานเป็นพักๆ ด้วย
เลสลี่ย์ อูโกชุควู – 5
ออกลูกโฉ่งฉ่างให้เห็นในบางจังหวะ จนออกจะโชคดีไม่น้อยกับจังหวะเสียบคาบลูกคาบดอกตอนท้ายครึ่งแรก ที่ผู้ตัดสินยังปรานี ไม่ควักใบแดงเป็นของขวัญ
มอยเซส ไคเซโด้ – 6
ยืนสูงกว่าคู่อย่าง อูโกชุควู เล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับเดินเกมรุกเต็มตัว และมีช็อตผิดพลาดโดนตัดบอลจุดอันตราย น.33 ยังดีที่ โรเบิร์ต ซานเชซ เซฟช่วยไว้ได้
มิไคโล มูดริค – 5
ดูเน้นเกมจ่ายบอลมากกว่ากระชากลากเลื้อย แต่ก็จ่ายเข้าเป้าบ้างหลุดไปไกลบ้าง และตลอดเวลาที่อยู่ในสนามก็ไม่ได้สร้างสรรค์อะไรมากมาย ยังไม่ใช่เกมที่น่าจดจำ
โคล พาล์มเมอร์ – 8
ครองบอลดี คล่องตัวสูง กดดันกองหลังได้ดีเมื่อมีบอล สร้างจังหวะยิงไกลที่แม้จะเบาหยองเข้ามือนายทวาร รวมถึงได้เข้าชาร์จระยะอันตรายเฉี่ยวเสาไปตอนทดเจ็บครึ่งแรก ก่อนที่ครึ่งหลังจะแอสซิสต์ให้ นิโคลัส แจ๊คสัน ยิงนำ เท่ากับเล่นได้เด่นเลยในเกมนี้
ยาน มาตเซ่น – 7
ยืนปีกขวาแต่ก็มีหน้าที่ช่วยเกมรับควบคู่ โดยหลายๆ จังหวะต้องถอยลงต่ำสุดเพื่อช่วย กูกูเรย่า รับมือกับ มิโตมะ ซึ่งนั่นก็ทำให้ไม่เด่นนักในเกมรุก แม้จะมีส่วนร่วมกับประตูโทนในการขึ้นเกมก็ตาม
นิโคลัส แจ๊คสัน – 7
เงียบสนิทในครึ่งแรกที่ได้แค่วิ่งไปวิ่งมา แต่ครึ่งหลังได้บอลจ่ายจาก โคล พาล์มเมอร์ ให้ยิงไม่จับเสียบเสาเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม และยิงลูกสองได้ด้วยแต่
โดนจับล้ำหน้า
สำรอง
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (แทน มิไคโล มูดริค น.67) – 6
ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรกับการลงไปแทน มูดริค ยี่สิบกว่านาทีท้าย เมื่อบอลอยู่ในการครอบครองของ ไบรท์ตัน เสียส่วนมาก
เอ็นโซ เฟร์นานเดซ (แทน โคล พาล์มเมอร์ น.75) – 6
ลงไปช่วยไล่บอลในแดนกลาง เน้นรับเพื่อตรึงสกอร์ มากกว่าจะได้สร้างสรรค์เกมรุกอะไรเพิ่มเติม
คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ (แทน ยาน มาตเซ่น น.75) – 6
เช่นเดียวกับ เอ็นโซ ที่แม้จะถูกส่งลงไปยืนกราบขวาแทน มาตเซ่น แต่โดยหน้าที่แล้วก็แค่วิ่งและช่วยให้ทีมไม่พลาดเสียประตูตอนท้าย
อาร์มันโด้ โบรย่า (แทน นิโคลัส แจ๊คสัน น.87) N/A
อยู่ในสนามแค่หายใจไม่กี่ปื้ดก็จบเกม น่าเสียดายนิดๆ ที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ น่าลองเปิดโอกาสให้มากกว่านี้หน่อย