ตัดเกรดนักเตะ เชลซี-สเปอร์ส เกม พรีเมียร์ลีก นัดดวลเดือด สิงห์ เฉือด ไก่ 9 ตัว 4-1 แจ๊คสัน แฮตทริก : Player Ratings

0


รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24
วันแข่งขัน: วันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2566
สนาม: ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน:
สเปอร์ส 1-4 เชลซี

พรีเมียร์ลีก มันเดย์ไนท์ที่ทุกฝ่ายจับตา กับเกมใหญ่ ลอนดอนดาร์บี้แมตช์ ระหว่าง สเปอร์ส ผู้ไร้พ่าย กับ เชลซี ที่ยังขึ้นๆ ลงๆ แต่ผลปรากฏว่า เชลซี บุกถล่มถึงเล้าไก่ 4-1 ด้วยแฮตทริกของ นิโคลัส แจ๊คสัน ภายหลังเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญอย่าง 2 ใบแดงของ คริสเตียน โรเมโร่ และ เดสตินี่ อูโดจี้

โรเบิร์ต ซานเชซ – 7

เสียประตูเร็วเพียง 6 นาทีแรก แต่ก็ว่าไม่ได้เหมือนกันเมื่อเป็นลูกแฉลบเปลี่ยนทาง จากนั้นมีออกบอลพลาดบ้าง แต่ก็ยังเซฟสำคัญลูกยิงของ ซน ฮึง-มิน ไม่ให้เป็น 2-2 ตอนทดเจ็บ

ลีวาย โคลวิลล์ – 5

ถูกถ่างออกยืนแบ็กซ้ายอีกครั้ง ทว่าก็โดนจู่โจมเร็วและเสียประตูทันทีเมื่อ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ยิงมาชนหลัง โคลวิลล์ เปลี่ยนทางเข้าไป จากนั้นเล่นด้วยความดุดันและร้อนแรงจนโดนใบเหลือง และถูกถอดทันทีเมื่อเริ่มครึ่งหลัง ด้วยเกรงว่าจะโดนแดงเข้า

ติอาโก้ ซิลวา – 6

เจองานหนักไม่น้อยในครึ่งชั่วโมงแรก แต่ก็หายใจโล่งคอเมื่อ สเปอร์ส โดน 2 ใบแดง เพียงแต่ตัวน้อยกว่าของ สเปอร์ส ก็ยังดาหน้าเข้าใส่และสร้างความหนักใจให้ ซิลวา ได้ไม่เบาเลย

อักเซล ดิซาซี่ – 6

เช่นเดียวกับ ซิลวา คืองานเบาขึ้นชัดหลัง เชลซี มีตัวมากกว่า แต่การประสานงานของ ดิซาซี่ กับ ซิลวา ก็ใช่ว่าจะแนบเนียน 100% โดยต้องลุ้นทั้งจังหวะของ เอริก ไดเออร์ ว่าจะล้ำหน้าหรือไม่ และลูกยิงทดเจ็บของ ซน ฮึง-มิน ที่ โรเบิร์ต ซานเชซ ต้องเซฟช่วยไว้

รีซ เจมส์ – 7

คืนตัวจริงเกมลีกหลังหายหน้าไปพักหนึ่ง และตอนแรกต้องเจองานหนักกับการตามล้างตามเช็ดของแรงอย่าง เบรนแนน จอห์นสัน ทว่าเมื่อ จอห์นสัน โดนถอดออกหลังมีใบแดงแล้ว ก็เล่นอย่างมั่นใจทันที ก่อนที่จะถูกถอดออกไปพักเพื่อเลี่ยงปัญหาบาดเจ็บแทรกซ้อน

มอยเซส ไคเซโด้ – 6

อาจต้องโทษระบบของ โปเช็ตติโน่ มากกว่า เมื่อในช่วงต้นมีหลายจังหวะที่ ไคเซโด้ ไม่ได้วิ่งตามปิดเกมของ เจมส์ แมดดิสัน จนสุด แต่เน้นการยืนคุมโซนในตำแหน่งตัวเอง และโชคร้ายที่ลูกยิงไกลมุดเสาสวยๆ โดนจับล้ำหน้าปลายส้นเท้าของ นิโคลัส แจ๊คสัน นิดเดียวเท่านั้น

เอ็นโซ เฟร์นานเดซ – 6

ถูกถอยไปยืนกลางรับคู่ ไคเซโด้ อีกครั้ง เมื่อ โปเช็ตติโน่ เห็นแล้วว่ายืนสูงเป็นกลางรุกไม่รุ่ง แต่ก็เป็นคนที่เรียกจุดโทษให้ทีมได้ (แบบงงๆ) นาที 32 ที่ผู้ตัดสินเช็ค VAR แล้วย้อนมาแจกใบแดง คริสเตียน โรเมโร่ ก่อนที่ เอ็นโซ จะโดนเปลี่ยนออกในครึ่งหลัง ด้วยดูเหมือนว่าจะเจ็บเล็กๆ

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง – 7

ลุยเดี่ยวเข้าไปยิงประตูในนาที 22 แต่ชัดเจนว่าบอลเด้งกลับมาโดนแขนจึงเป็นแฮนด์บอล ส่วนจากนั้นก็ถือว่าใช้ความเร็วและการชิงเหลี่ยมกับดักล้ำหน้า ได้อย่างเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะลูกเปิดป้อนให้ แจ๊คสัน ยิงนำ 2-1 (น.75) ที่เป็นสะพานสำคัญสู่ชัยชนะขาดลอย

คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ – 7

ยืนมิดฟิลด์ตัวรุกตรงกลาง แต่ถือว่ามีบทบาทกับเกมน้อยในครึ่งแรก เมื่อบอลวิ่งไปวิ่งมาไม่ค่อยเข้าเท้า กระนั้นในท้ายที่สุดก็ถือว่ามีส่วนร่วมสำคัญกับชัยชนะ ด้วยการวิ่งพล่านไปมาในแดนกลาง มีส่วนทั้งรุกรับ และทำ 1 แอสซิสต์ในประตู 3-1 (90+4)

โคล พาล์มเมอร์ – 7

ยิงจุดโทษกระแทกเสาในเข้าไปเป็นประตูตีเสมอ 1-1 หลังผ่านครึ่งชั่วโมง และเล่นได้อย่างวูบวาบมีมาตรฐานสูงตลอดเกม รวมทั้งเป็นคนทิ้งยาวให้ แจ๊คสัน หลุดเข้าไปทำแฮตทริก 90+7

นิโคลัส แจ๊คสัน – 8

กิน กูเยลโม่ วิคาริโอ ไม่ลงในโอกาสทองตอนต้นเกม จากนั้นถูกจับล้ำหน้าจังหวะลูกยิงของ มอยเซส ไคเซโด้ เช่นเดียวกับที่เข้าฮอสลูกเปิดของ สเตอร์ลิ่ง ก็ล้ำหน้าอีก ยังดีที่สุดท้ายปิดบัญชีได้จากการถวายพานทองของ สเตอร์ลิ่ง น.75 และ กัลลาเกอร์ 90+5 รวมถึงมาทำแฮตทริกแรกได้ด้วยตอนทดเจ็บนาทีที่ 7 จากจังหวะหลุดจากการจับล้ำหน้าเช่นเคย

สำรอง

มาร์ก กูกูเรย่า (แทน ลีวาย โคลวิลล์ น.46) – 6

สบโอกาสทะลุเดี่ยวเข้าไปในนาที 68 ที่น่าจะเป็นประตูได้ แต่ก็เอาชนะ กูเยลโม่ วิคาริโอ ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตามถือว่าทำหน้าที่แบ็กซ้ายได้ไม่ผิดพลาด

มิไคโล มูดริค (แทน เอ็นโซ เฟร์นานเดซ น.57) – 4

ควรทำได้ดีกว่านี้มากๆ ในการลงสำรอง และมีพื้นที่เล่นเยอะเป็นทุ่งหลังจาก สเปอร์ส เหลือแค่ 9 คน แต่มีทั้งเปิดโด่งผิดเป้าไปไกล และเข้าปะทะ วิคาริโอ จนโดนใบเหลือง

มาโล กุสโต้ (แทน รีซ เจมส์ น.77) – 5

ไม่ได้สร้างความมั่นใจให้ เชลซี ได้สักเท่าไหร่ว่าลงไปแล้วจะปิดเกมได้ดีกว่าตอนมี เจมส์ ในสนาม ยังดีที่การตัดเกมจนเสียฟาวล์ริมเส้นไม่ได้ส่งผลเสียต่อผลการแข่งขัน

เลสลี่ย์ อูโกชุควู (แทน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น.90+1) N/A

ได้อยู่ในสนามช่วงทดเจ็บ 9 นาที แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากนัก แค่ช่วยเสริมพลังในแดนกลางขึ้นหน่อย

คะแนนนักเตะ สเปอร์ส

กูเยลโม่ วิคาริโอ 9
เดสตินี่ อูโดจี้ 6
มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน 6 (เอแมร์ซอน โรยัล 7 น.45+1)
คริสเตียน โรเมโร่ 4
เปโดร ปอร์โร่ 8
อีฟส์ บิสซูม่า 7
ปาเป้ ซาร์ 7 (โอลิเวอร์ สคิปป์ 7 น.61)
เบรนแนน จอห์นสัน 7 (เอริก ไดเออร์ 8 น.34)
เจมส์ แมดดิสัน 6 (ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก 9 น.45+1)
เดยัน คูลูเซฟสกี้ 6 (โรดริโก้ เบนตันกูร์ 6 น.61)
ซน ฮึง-มิน 7

Nicolas Jackson

Tottenham Hotspur v Chelsea FC – Premier League / Matthew Ashton – AMA/GettyImages



Source link

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *