จบสถิติไร้พ่าย “สเปอร์ส” 9 คน โดน “เชลซี” ถล่มยับคาบ้าน อดทวงจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก

0


วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดมันเดย์ไนต์ สเปอร์ส เจ้าถิ่นที่ต้องการ 3 คะแนน เพื่อทวงจ่าฝูงคืนจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านต้อนรับ เชลซี คู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน ที่นำทัพโดย เมาริซิโอ โปเชตติโน อดีตผู้จัดการทีมในปี 2014-2019

ครึ่งแรก นาทีที่ 6 สเปอร์ส ขึ้นนำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็วจาก เดยัน คูลูเซฟสกี จากนั้น เชลซี ก็มาโดนวีเออาร์ปฏิเสธประตูถึง 2 ครั้งจากการยิงของ ราฮีม สเตอร์ลิง นาทีที่ 21 และ มอยเซส ไกเซโด นาทีที่ 28

แต่แล้วนาทีที่ 33 จุดเปลี่ยนสำคัญก็เกิดขึ้น เมื่อ คริสเตียน โรเมโร กองหลังสเปอร์ส เข้าปะทะแบบไม่ระมัดระวังใส่ เอ็นโซ เฟอร์นันเดซ ในเขตโทษ จนเสียทั้งจุดโทษและโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม “ไก่เดือยทอง” เหลือ 10 คน ก่อนที่ โคล พาลเมอร์ จะสังหารเข้าไปให้ เชลซี ตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 35

ครึ่งหลัง นาทีที่ 55 สเปอร์ส ยิ่งแย่หนัก เดสตินี อูโดกี ไปเข้าหนักใส่ ราฮีม สเตอร์ลิง โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงอีกราย เหลือแค่ 9 คน

นาทีที่ 75 เชลซี แซงนำ 2-1 ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปจ่ายให้ นิโคลัส แจ็คสัน ยิงล่อเป้าโล่งๆ ไม่เหลือซาก

ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+4 เชลซี ขึ้นเกมลักษณะเดิม จ่ายตัดแนวรับสเปอร์สที่ดันสูงครึ่งสนามให้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ หลุดกับดักล้ำหน้าแล้วพาขึ้นมาจ่ายให้ นิโคลัส แจ็คสัน เจ้าเก่า ซัดเข้าไปเป็น 3-1

นาทีที่ 90+7 สเปอร์ส ยังไม่เข็ด ดันแนวรับขึ้นสูงก่อนโดน เชลซี จ่ายให้ นิโคลัส แจ็คสัน หลุดเข้าไปแตะหลบ กูเยลโม วิคาริโอ แล้วยิงโล่งๆ เป็นแฮตทริก ปิดเกมให้บุกมาเอาชนะขาดลอย 4-1

จบเกมนี้ สเปอร์ส มี 26 คะแนนเท่าเดิม แพ้นัดแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ พร้อมกับเสียจ่าฝูงให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี 27 แต้มด้วย ส่วน เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 15 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 10



Source link

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *